1. Bare copper (สายทองแดงเปลือย)

ลักษณะ: เป็นสายทองแดงเปลือยที่ไม่มีการเคลือบผิวใด ๆ

ข้อดี:

  • นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยมเนื่องจากเป็นทองแดงบริสุทธิ์
  • ราคาถูกกว่าสาย Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)

ข้อเสีย:

  • เกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศและความชื้นทำให้เกิดความต้านทานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและลดประสิทธิภาพการนำไฟฟ้า
  • ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมีกัดกร่อน
  • บัดกรีได้ยากกว่าสาย Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)

 

  1. Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)

ลักษณะ: เป็นสายทองแดงที่เคลือบผิวด้วยดีบุก

ข้อดี:

  • ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นได้ดี (Oxidation) ทำให้คงประสิทธิภาพการนำไฟฟ้าได้นานกว่า
  • ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและสารเคมีกัดกร่อนได้ดีกว่า
  • บัดกรีได้ง่ายกว่าสาย Bare copper (ทองแดงเปลือย)

ข้อเสีย:

  • ราคาสูงกว่าสาย Bare copper (ทองแดงเปลือย)
  • การนำไฟฟ้าอาจลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีชั้นดีบุกเคลือบอยู่

การเลือกใช้:

  • Bare copper (ทองแดงเปลือย):

เหมาะสำหรับงานเดินสายไฟภายในอาคารที่แห้งและไม่มีสารเคมีกัดกร่อน หรือในงานที่ต้องการการนำไฟฟ้าสูงสุดและไม่กังวลเรื่องการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation)  เช่น งานระบบกราวด์

  • Tinned copper (ทองแดงเคลือบดีบุก):

เหมาะสำหรับงานเดินสายไฟภายนอกอาคาร, ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง, หรือในงานที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation)  เช่น งานเดินสายไฟในโรงงานอุตสาหกรรม, งานเดินสายไฟในเรือ หรือในงานที่ต้องการการบัดกรีที่ง่าย

 

สรุป:

สาย Bare copper (ทองแดงเปลือย) มีข้อดีที่การนำไฟฟ้าดีเยี่ยมและราคาถูก แต่ก็เกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ง่าย ส่วนสาย Tinned copper (ทองแดงเคลือบดีบุก) มีข้อดีที่ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ดีและทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ แต่ก็มีราคาสูงกว่า การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมที่จะใช้งาน

 

คำแนะนำ:

หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้สายชนิดใด ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับงาน

 

Read 15 times